ไอ้หนูเอ๋ย มานั่งดู Dreamin’ Wild (2023) กับฉันดีมั้ย? เอาจริงนะ ฉันกำลังจะแนะนำหนังที่แม้แต่ฉันยังลังเลว่าต้องไปขายเพื่อนขนาดนี้เลยมั้ย แต่โอเค ตัดสินใจแล้วล่ะ ต้องดู!

Dreamin’ Wild (2023) เป็นเรื่องจริงของพี่น้องสองคนชื่อ Donnie และ Joe Emerson ที่เมื่อตอนเป็นวัยรุ่นในปี 1979 ได้ไปทำอัลบั้มของตัวเองด้วยเงินที่พ่อเอาที่ดินไปจำนองให้ (อึก!) แต่อัลบั้มนั้นมันไม่ดังเลย ขายไม่ได้ ฝันแตกสลาย พี่น้องกลายเป็นชาวบ้านธรรมดา… แล้วอยู่ๆ หลังจากผ่านไป 30 ปี วงการดนตรีกลับมาค้นพบอัลบั้มนี้และประกาศว่า “โอ้ยยยย นี่มันผลงานเอกวัยรุ่นที่หายไป!” ฮิปสเตอร์ใหม่ยกเป็นเทพ นักวิจารณ์เรียกว่า “มาสเตอร์พีช” เสียงดีมั้ย? เฮ้ย แหกตาฟังสิ! เพลง “Baby” ของมันฟังเหมือนเอาความฝันมาใส่ในเทปเลย อย่าไปคาดหวังหนังแอ็คชั่นนะ มันเป็นแนว quiet drama ที่ Casey Affleck แสดงเป็นโดนนี่วัยกลางคนที่ต้องมาเผชิญหน้ากับความฝันเก่าที่กลับมาเคาะประตู ที่ทำให้ฉันอยากร้องไห้คือ มันไม่ใช่แค่เรื่องของความดัง แต่เป็นเรื่องของ ความผิด ความรัก และการให้อภัย ในครอบครัว พ่อของเขาไม่เคยโทษลูกเลยแม้จะเสียที่ดิน ส่วนโดนนี่กลับรู้สึกผิดมาตลอด 30 ปี หนังเรื่องนี้จะทำให้มึงคิดถึงความฝันที่เคยมี ถึงครอบครัวที่เสียสละให้ ถึงโอกาสที่สองที่บางทีมันมาช้าเกินไป… หรือมาพอดี? ผู้กำกับคือ Bill Pohlad คนเดิมที่ทำ “Love & Mercy” เรื่องของ Brian Wilson มาก่อน เขารู้จักทำหนังเรื่องดนตรีที่ลึกซึ้ง ไม่ฉาบฉวย
คำเตือน: อย่าไปคาดหวังความฮาหรือแอ็คชั่น มันเป็นหนังที่ “อ่อนโยน” แต่แทงใจแรงมาก เตรียมทิชชู่ไว้ด้วย ฉันว่าควรไปฟังเพลงจริงๆ ก่อนดูหนัง เพราะพอรู้ว่าเสียงนี้มันถูกทำขึ้นโดยเด็กวัยรุ่นสองคนในไร่ข้าวโพดกลางทุ่งนาห่างไกลอารยธรรม มึงจะประทับใจมากขึ้น
แนวหนัง: Drama Musical Biography / Based on True Story