The Abandoned (2023) ร่างที่ถูกทิ้ง ซับไทย เต็มเรื่อง
เมื่อคนถูกทิ้งพบร่างที่ถูกทิ้ง: เบื้องหลังความคิดของ “The Abandoned” (2023)
ในคืนวันสิ้นปี เมื่อดอกไม้ไฟระเบิดสีสันบนท้องฟ้า และเพลง “Only You” ของ Yazoo ดังกังวานไปในความเงียบ มีตำรวจหญิงคนหนึ่งนั่งในรถ มือถือปืนแนบชันขมับ พร้อมจะยุติชีวิตตนเอง แต่แล้วเด็กสาวคนหนึ่งก็มาเคาะหน้าต่างรถขอความช่วยเหลือ ภาพยนตร์ไต้หวันเรื่อง “The Abandoned” (查無此心) กำกับโดย Tseng Ying-ting เริ่มต้นด้วยจังหวะที่ขัดแย้งระหว่างการเฉลิมฉลองและความสิ้นหวัง เป็นการตั้งโทนให้กับเรื่องราวที่จะสำรวจความหมายของ “การถูกทิ้ง” ในหลากหลายมิติ
หนังเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราวของการไล่ล่าฆาตกรต่อเนื่องธรรมดา แต่เป็นการไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับกลุ่มคนที่ “ไม่มีใครสนใจ” ในสังคม ผู้กำกับได้เลือกที่จะใส่ไฟส่องให้เห็นชีวิตของแรงงานข้ามชาติผู้หญิงจากไทย เวียดนาม และกัมพูชา ที่มาทำงานในไต้หวันอย่างผิดกฎหมาย พวกเธอเหล่านี้ไม่เพียงแต่ถูกทิ้งให้อยู่นอกระบบและถูกเอาเปรียบเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นเป้าหมายของฆาตกรที่เก็บหัวใจและนิ้วนางของเหยื่อเป็น “ของสะสม”
ตัวละครหลักอย่างนักสืบ Wu Jie (จางจุนหนิง) เองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ถูกทิ้ง—ถูกทิ้งโดยความเศร้าโศกจากการสูญเสียคู่หมั้น ถูกทิ้งโดยความรู้สึกผิดที่ว่าตนเองอาจเป็นสาเหตุของการตายของเขา การที่เธอมาเจอกับศพของแรงงานข้ามชาติที่ถูกทิ้งริมน้ำจึงไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่เป็นการพบกันของผู้ที่มีความเจ็บปวดร่วมกัน ผ่านคดีนี้ Wu Jie จึงได้เรียนรู้ว่าแทนที่จะหลีกหนีจากอดีตด้วยการฆ่าตัวตาย เธอควรใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อปกป้องคนที่ไร้ที่พึ่งอย่างเดียวกับเธอ
ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังสะท้อนถึงความล้มเหลวของระบบที่ปล่อยให้คนกลุ่มหนึ่งกลายเป็น “มนุษย์ล่องหน” ในโลกสมัยใหม่ ฆาตกรในหนังไม่ได้เป็นเพียงบุคคลผู้ป่วยทางจิตคนเดียว แต่เป็นสัญลักษณ์ของสังคมที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อ “ผู้อื่น” และการปฏิเสธที่จะเห็นคุณค่าของชีวิตมนุษย์ที่แตกต่าง เมื่อชื่อหนังคือ “查無此心” แปลตรงตัวว่า “ไม่พบหัวใจ” มันจึงไม่ได้หมายถึงแค่หัวใจที่ถูกควักออกจากร่างของเหยื่อเท่านั้น แต่รวมถึงหัวใจของความเมตตาที่หายไปจากสังคมด้วย
ในยุคที่ประเด็นการย้ายถิ่นและสิทธิของแรงงานข้ามชาติกำลังเป็นปัญหาสำคัญทั่วโลก “The Abandoned” จึงเป็นมากกว่าหนังระทึกขวัญ แต่เป็นการเตือนใจให้เราได้มองเห็นและรับรู้ถึงการมีอยู่ของผู้ที่ถูกทำให้ “ล่องหน” ในสังคมของเรา
แนวหนัง: ระทึกขวัญ, อาชญากรรม, ดราม่าสังคม
There are no reviews yet.