Mafia Mamma (2023): เมื่อแม่บ้านอเมริกันกลายเป็นเจ้าแม่มาเฟีย
การค้นหาตัวตนในดินแดนแห่งความขัดแย้ง
หากว่าชีวิตวัยกลางคนของผู้หญิงคือการถูกมองข้าม การถูกทอดทิ้ง และการสูญเสียอัตลักษณ์ที่แท้จริง Mafia Mamma ก็เสนอทางออกที่ดูเหมือนจะไร้สาระ แต่กลับสะท้อนถึงความฝันลึกๆ ของหลายคน คือการได้เป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ครั้งหนึ่ง แม้ว่าจะต้องแลกด้วยการกลายเป็นหัวหน้าองค์กรอาชญากรรมที่น่ากลัวที่สุดในอิตาลี
ภาพยนตร์นี้นำเสนอเรื่องราวของคริสติน แม่บ้านชาวอเมริกันที่ถูกทอดทิ้งจากสามีนอกใจ และได้รับมรดกองค์กรมาเฟียจากปู่ที่เธอไม่เคยรู้จักในอิตาลี ท่ามกลางการต่อสู้แย่งชิงอำนาจและสงครามระหว่างตระกูล เธอต้องเรียนรู้ที่จะเป็นหัวหน้าใหม่ ภายใต้การแนะนำของบิอังกา นักปรึกษาตระกูล ที่แสดงโดยโมนิกา เบลลุชชี
สิ่งที่น่าสนใจคือ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่คอมเมดี้เรื่องแม่บ้านที่ไปเล่นเป็นมาเฟีย แต่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการมองผู้หญิงวัยกลางคนในสังคม เป็นเรื่องราวแห่งความแค้นที่มุ่งเป้าไปที่ผู้ชมที่เป็นผู้หญิงซึ่งเบื่อหน่ายกับการถูกมองข้ามหลังจากอายุมากขึ้น ถูกมองว่าไม่มีเสน่ห์เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า และถูกดูถูกในเรื่องความสามารถและสติปัญญา
ความผิดหวังในทางศิลปะ แต่ประสบความสำเร็จในทางจิตใจ
แม้ว่านักวิจารณ์จะให้คะแนนเพียง 21% และวิจารณ์ว่าเต็มไปด้วยสเตอริโอไทป์ ไม่ตลก และเป็นการสิ้นเปลืองความสามารถของโทนี คอลเล็ตต์ แต่หัวใจของเรื่องกลับมีความหมายลึกซึ้งกว่าที่คิด การที่ผู้หญิงคนหนึ่งค้นพบพลังในตัวเองผ่านบทบาทที่ไม่เคยคิดฝันถึง แม้จะเป็นการนำเสนอแบบตลกขบขัน แต่ก็สะท้อนถึงการปลดปล่อยตนเองจากข้อจำกัดทางสังคม
ภาพยนตร์พยายามเป็นการแสดงออกถึงพลังแห่งสตรีนิยม แต่กลับติดอยู่ในแนวคิดที่ล้าสมัยเรื่องการเสริมพลังให้ผู้หญิง ความขัดแย้งระหว่างภาพลักษณ์ที่อ่อนโยนของแม่บ้านกับความเป็นหัวหน้าองค์กรอาชญากรรมกลายเป็นดาบสองคม ที่ทั้งให้ความบันเทิงและสร้างคำถามเรื่องการกำหนดตัวตนของผู้หญิงในสังคม
ท้ายที่สุดแล้ว Mafia Mamma อาจไม่ใช่ผลงานชิ้นเอกทางภาพยนตร์ แต่เป็นการแสดงออกถึงความปรารถนาที่ไม่กล้าพูดออกมาของหลายคน คือการได้เป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ แม้ว่าจะต้องแลกด้วยความโลดโผนและไร้สาระ แต่บางครั้งความไร้สาระก็เป็นทางออกที่ดีที่สุดจากความเป็นจริงที่น่าอึดอัด
แนวหนัง: คอมเมดี้-อาชญากรรม (Comedy-Crime), ดราม่าชีวิต (Life Drama)